10.31.2550

Happy Halloween!!!





Halloween ou Hallowe'en est une fête qui se déroule dans la nuit du 31 octobre au 1er novembre. Elle est fêtée principalement au Canada, en Grand-Bretagne et aux États-Unis. La principale tradition veut que les enfants se déguisent avec des costumes qui font peur (squelettes, sorcières, monstres, etc.) et aillent sonner aux portes en demandant aux adultes, souvent eux aussi déguisés, des bonbons, des fruits ou de l'argent en disant, « Trick or treat ! » (« Des friandises ou un mauvais tour ! ») ou simplement «Halloween!». D'autres activités incluent des bals masqués, le visionnage de films d'horreur, la visite de maisons "hantées", etc.
Halloween tire une lointaine origine d'une fête païenne celte ("
Samain") qui a perduré plus longtemps chez les Celtes d'Irlande et de Grande-Bretagne que sur le continent européen. Après avoir évolué suite à la christianisation des populations, cette tradition a été transportée en Amérique du Nord au XIXe siècle par les Irlandais, les Écossais et autres immigrants.
Le principal symbole d'Halloween est la
citrouille, remplacée quelquefois par un potiron (Jack-o'-lantern en anglais) : on le découpe pour y dessiner, en creux, un visage, puis on place une bougie en son centre.





Origine
Halloween est une
fête traditionnelle celtique qui prend sa source dans une lointaine fête celtique : il y a 2000 ans, les Celtes fêtaient, pendant trois jours, le changement d'année – appelé Samonios en Gaule, Samain en Irlande – aux environs du 1er novembre. Importée, pour finir, sur le continent nord-américain par les immigrants catholiques irlandais – l'Irlande ayant été évangélisée très tardivement au VIe siècle, c'est le pays où la fête de Samain a subsisté le plus longtemps.
Son nom actuel est une altération de All Hallow's Eve, qui signifie littéralement : « la veille de la fête de tous les saints », c'est-à-dire la veille de la fête chrétienne de la
Toussaint ("hallow" est une forme archaïque du mot anglais "holy" qui signifie : "saint").





Symboles


Le principal symbole d'Halloween est la citrouille, remplacée quelquefois par un potiron (Jack-o'-lantern en anglais) : on le découpe pour y dessiner, en creux, un visage, puis on place une bougie en son centre. Même s'il y a une tradition des Îles Britanniques consistant à sculpter une lanterne à partir d'un rutabaga, d'un mangelwurzel ou d'un navet, la pratique fut associé à Halloween en Amérique du Nord, où la citrouille était plus large et plus facile à sculpter.












นิสัยที่ทำร้ายสมอง


วันนี้เกร็ดความรู้มีนิสัย 10 ข้อ ที่ทำร้ายสมองมากฝากกัน...
1. ไม่ทานอาหารเช้า หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหารเช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ แต่นี้จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม

2. กินอาหารมากเกินไป จะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น

3. การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุให้เป็นโรคสมองฝ่อและเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์

4. ทานของหวานมากเกินไป จะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาสมอง

5. มลภาวะ สมองเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกายการสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไปจะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อยส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง

6. การอดนอน เป็นเวลานานจะทำให้เซลล์สมองตายได้ ส่วนการนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อน

7. นอนคลุมโปง จะเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้นและลดออกซิเจนให้น้อยลงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง

8. ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วย จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงเหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว

9. ขาดการใช้ความคิด การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมองการขาดการใช้ความคิดจะทำให้สมองฝ่อ

10. เป็นคนไม่ค่อยพูด ทักษะทางการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง
สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญ ยังไงก็อย่าลืมหันมาเอาใจใส่กันด้วย.

10.27.2550

Landeck




Landeck is a city in Tyrol, Austria with approximately 7,633 inhabitants. It is located at 47°7′60″N, 10°34′0″E, and an elevation of about 820 m in the west of Tyrol, on the river Inn. Landeck is the capital of the district (Bezirk) Landeck.
It is the site of post
World War II French sector United Nations Relief and Rehabilitation Administration displaced person camp and displaced person camps[1].
It received the rights of a
market town in 1904, and its city rights in 1923.


10.21.2550

Break dance


Le (ou la) break dance, ou breakdance, ou break, ou bboying, est un terme utilisé pour désigner un style de danse développé à New York dans les années 1970 caractérisé par son aspect acrobatique et ses figures au sol. Un danseur de break dance est appelé breaker, b-boy, ou encore b-girl s'il s'agit d'une femme.

10.08.2550

เวลาเกิดบอกอะไร



คนที่เกิดตั้งแต่ตีห้าจนถึง 06.59 น. จะเป็นคนมีมารยาท ทำอะไรก็จะระมัดระวังตัวเองเสมอ เป็นคนถี่ถ้วน ใจกว้างมาก ชอบช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก เป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย แต่ก็ไม่ได้เป็นพวก แอนตี้สังคม แต่ถ้ามีใครมาจุกจิกมากไปจะอารมณ์ เสียง่าย

สายลงมาหน่อยเกิดตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าถึง 08.59 น. จะมีบุคลิกความเป็นผู้นำสูง มีความมั่นใจในตัวเองสูง มาดดี ทำให้ผู้อื่นให้ความเชื่อถือได้ง่าย เป็นคนไม่กลัวใคร รักความท้าทายชอบทำอะไรเสี่ยง ๆ เป็นที่สุด ต่อมความคิดสร้างสรรค์โตมาก มักจะคิดทำโน่นทำนี่ตลอดเวลา และสามารถทำงานต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

เกิดตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึง 10.59 น. เป็นคนเนี้ยบในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวดี รักความสะอาดสะอ้าน รสนิยมก็เป็นเลิศ สุภาพอ่อนโยน มีมารยาทเข้ากับผู้คนรอบข้างได้ง่าย นับเป็นคนมีเสน่ห์จัดจ้านมาก ใครเห็นก็มักจะหลงใหลได้ปลื้ม แต่มีความทะเยอทะยานมาก และเป็นคนมีเป้าหมายในชีวิต

เกิดตั้งแต่เวลาสิบเอ็ดโมงถึง 12.59 น. จัดเป็นคนร่าเริง อยู่ที่ไหนมักจะเรียกเสียงหัวเราะให้กับเพื่อน ๆ ได้เสมอ รักอิสระ รักการเดินทาง ชอบการผจญภัย ชอบที่จะได้พบได้เห็นสิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ ในชีวิตเพื่อเพิ่มความสุขให้กับตัวเอง เป็นคนมีชีวิตชีวา กระตือรือร้น ไม่จู้จี้จุกจิก หรือขี้บ่นใด ๆ ทั้งสิ้น

เกิดเวลาบ่ายโมงจนถึง 14.59 น. จะเป็นพวกรักสงบ ไม่ชอบสับสนวุ่นวาย จะทำอะไรมักมีข้อจำกัด ระวังตัวแจจนหมดสนุก แต่ก็เป็นคนซื่อสัตย์ จิตใจดี สุภาพ ไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้งกับใคร

เกิดตั้งแต่สามโมงเย็นถึง 16.59 น. ชอบทำอะไรตามใจตัวเองไม่สนใจคนอื่น ใจร้อนมักจะทำอะไรโดยไม่ทันคิด จึงมักจะมีเรื่องปวดหัวอยู่เป็นประจำ แต่ก็เป็นคนฉลาดไหวพริบดีและเอาตัวรอดเก่ง เป็นพวกกล้าพูดกล้าทำ เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว มีความคล่องตัวทุกเรื่องจนบางทีอาจจะดูเหมือนเป็นคนกะล่อน แต่จิตใจดี

เกิดตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึง 18.59 น. เป็นพวกไว้ตัว เชื่อมั่นในตัวเองสูง จะทำอะไรก็ต้องตามระเบียบเป๊ะ ๆ ละเอียด จู้จี้ขี้บ่น เกลียดการทำอะไรนอกลู่นอกทาง ทำงานอย่างจริงจังและตั้งมาตรฐานไว้สูง

เกิดตั้งแต่หนึ่งทุ่มจนถึง 20.59 น. เป็นคนขยันสู้งานหนัก ตรงไปตรงมา กล้าพูด กล้าทำ มีความกระตือรือร้นในทุกเรื่อง ไม่ชอบวาดฝันเกินจริง ใจกว้าง มีความจริงใจให้กับทุกคน

เกิดตั้งแต่เวลาสามทุ่มจนถึง 22.59 น. จะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ช่างพูด ไม่ทำอะไรเร่งร้อน ภายนอกออกจะดูเฉื่อย ๆ แต่ก็มีความนุ่มนวลในตัวเอง สุภาพ พูดจาดี ถือเป็นเสน่ห์ที่สำคัญ และเป็นคนโรแมนติกสุด ๆ

เกิดตั้งแต่ห้าทุ่มจนถึง 00.59 น. เป็นคนรักอิสระสุด ๆ เกลียดการเดินตามเส้น ไม่ยอมที่จะผูกมัดกับใครง่าย ๆ รักการท่องเที่ยวไปในที่แปลกใหม่แถมยังชื่นชอบความเสี่ยง เป็นคนจิตใจดีและชอบช่วยเหลือผู้เดือดร้อน

เกิดตั้งแต่เวลาตีหนึ่งจนถึง 02.59 น. เป็นคนใจเย็น มักจะถูกเพื่อนค่อนขอดว่าเป็นญาติกับเต่า เพราะความเชื่องช้าเป็นเหตุ ปกติจะเป็นคนร่าเริงและเข้ากับคนง่าย แต่ถ้าโกรธจะรุนแรงมาก

เกิดตั้งแต่ตีสามจนถึง 04.59 น. ชอบความท้าทาย มีความเชื่อมั่นในตัวเองมาก มองโลกในแง่ดี ใจกว้าง กล้าพูดในสิ่งที่ตนเองเชื่อถือ และตกหลุมรักคนง่ายไปนิด และเมื่อรักใครก็จะรักจริงจัง มีความดื้อรั้น ถือทิฐิ และไม่ยอมแพ้ใคร ถ้ามีใครมาทำให้เจ็บใจละก็...เป็นอาฆาต...บรื๋ออออ...น่ากลัวจัง..!!.

10.07.2550

Celebrate Sydney's Summer

Sun, sea and relaxation are good reasons to visit Sydney at any time of year but during the southern hemisphere summer the capital of New South Wales is more alluring than ever. Over the coming weeks our articles will provide an insider’s glimpse of some of the finest restaurants, beaches and entertainment in Sydney and will highlight some cultural fixtures taking place during the Sydney Festival in January 2008

10.02.2550

The great pyramid of Eyghpt



ชื่อสถานที่ ปิรามิดแห่งกิซ่า: The great pyramid of Eygpht
สถานที่ตั้ง เมืองกิซา ประเทศอียิปต์
ปัจจุบัน สามารถเข้าเยี่ยมชมได้

ปิรามิดเป็นสิ่งก่อสร้างรูปกรวยเหลี่ยมสำหรับเป็นที่เก็บศพกษัตริย์อียิปต์โบราณ ในอียิปต์มีอยู่ 70 ด้วยกัน แต่ปิรามิด 3 แห่งที่อยู่เมืองกีซ่า คือ หลุมฝังศพของพระเจ้าฟาโรห์คีออพส์(พระเจ้าคูฟู) คีเฟรน และไมซีรีนัส เป็นปิรามิดที่ใหญ่ที่สุดสันนิษฐานว่าปิรามิดนี้ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ 4600 ปีมาแล้ว นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคเก่า ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและยังคงตั้งตระหง่านอยู่เพียงแห่งเดียวในโลก ใช้เวลาสร้าง 10 ปี ปิรามิดที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามอันแห่งเมืองกีซ่านี้ ที่ใหญ่ที่สุดคือปิรามิดของพระเจ้าฟาโรห์คีออพส์ เรียกว่ามหาปิรามิด - ฐานของปิรามิดแห่งนี้มีความกว้างถึง 570,000 ตาราง768 ฟุต บริเวณฐานปิรามิด 4 ด้านนั้น มีความกว้างยาวเท่ากัน คือ 755 ฟุต หรือ 230.12 เมตร จะแตกต่างกันมากน้อยแค่ 8 นิ้ว - ตัวมหาปิรามิดนี้สูงประมาณ 432 ฟุตประมาณได้ว่ามีหินก้อนมหึมาถึง 2,300,000 ก้อน หนักกว่า 6,000,000 ตัน แต่ละก้อนหนักถึง 2.5 ตัน บางก้อนหนักถึง 16 ตัน กว้างยาวประมาณ 3 ฟุต หรือ 1 เมตร สันนิษฐานว่าผู้สร้างปิรามิดนี้อาศัยดวงดาวเป็นหลัก นอกจากความใหญ่โตอันน่ามหัศจรรย์ของปิรามิดแล้ว การก่อสร้างให้สำเร็จยัง น่ามหัศจรรย์ยิ่งกว่าหลายเท่าถ้าทราบว่าหินเหล่านี้ต้องสกัดมาจากภูเขาที่อยูไกล แล้วลากมาสู่ฝั่งแม่น้ำไนล์ ล่องลงมาเป็นระยะทางนับร้อยไมล์ จึงมาถึงจุดใกล้ที่ก่อสร้าง แล้วชักลากผ่านทะเลทรายไปถึงที่ก่อส้างต้องแต่งสลักเป็นแท่งสี่เหลี่ยม แล้วยก วางซ้อนขึ้นไปจนถึง 432 ฟุต ใจกลางปิรามิดมีห้องเก็บพระศพของพระเจ้าคีออพส์ข้างในทำจากหินแกรนิต กว้าง 34 ฟุต ยาว 17 ฟุต และสูง 19 ฟุต หีบพระศพของพระเจ้าคีออพส์ทำด้วยหินแกรนิตตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของห้องปิรามิดของพระเจ้าคีออพส์ ล้อมรอบด้วยหลุมศพ และปิรามิดเล็ก ๆ อีก 3 แห่ง ซึ่งเป็นของสมาชิกในราชวงศ์และในราชสำนักชั้นสูง ปิรามิดแห่งที่สองของกีซ่าเป็นปิรามิดคีเฟรน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมหาปิรามิด เล็กกว่ามหาปิรามิดเล็กน้อย คือสูง 460 ฟุต ช่วงบนของปิรามิดนี้มีลักษณะเด่นเพราะเป็นหินปูนขาว ปิรามิดไมซีรีนัส เป็นปิรามิดที่เล็กที่สุดในบรรดาทั้งสามแห่ง สูงแค่ 230 ฟุต นอกเหนือจากปิรามิดทั้งสามแล้วยังมี ตัวสฟิงซ์ซึ่งมีชื่อเสียงมากเช่นกัน โดยแกะสลักหินก้อนใหญ่เป็นรูปสิงโตหมอบอยู่แต่หน้าเป็นมนุษย์ใบหน้านี้เป็นใบหน้าของพระเจ้าคีเฟรน ซึ่งมีคนนับถือเป็นพระเจ้าแห่งพระอาทิตย์ รูปสฟิงซ์นี้สูงถึง 66 ฟุต ยาว 240 ฟุต หมอบเฝ้าปากทางที่พามุ่งตรงไปยังปิรามิดแห่งคีเฟรน