2.26.2551

Les relatifs

Les relatifs ใช้ในการเชื่อมโยงประโยค หรือ ข้อความเข้าด้วยกัน เพื่ออธิบาย หรือขยายความให้ชัดเจนขึ้น
  1. Les relatifs simples : ได้แก่ qui, que, dont, où
  • Qui » แทนที่คำนาม ทั้งคน สัตว์ และ สิ่งของ โดยทำหน้าที่เป็นประธาน ในประโยคที่สอง
    - Je regarde une fille ; cette fille est mignonne.---> Je regarde une fille qui est mignonne.- Le TGV est un train rapide. Il roule à 300 km / h.---> Le TGV est un train rapide qui roule à 300 km / h.
  • Que » แทนที่คำนาม ทั้งคน สัตว์ และ สิ่งของ โดยทำหน้าที่เป็นกรรมตรง ในประโยคที่สอง
    - Je regarde une fille. Je connais bien cette fille.---> Je regarde une fille que je connais bien.- Le français est une matière. J'aime cette matière le plus.---> Le français est la matière que j'aime le plus.
  • Dont » แทนที่คำนาม ทั้งคน สัตว์ และ สิ่งของ ในโครงสร้าง ที่คำกริยามี préposition " de " นำหน้าคำนาม [รวมถึงแสดงความเกี่ยวโยงการเป็น "เจ้าของ" ของคำนามในประโยคที่หนึ่ง ต่อคำนามในประโยคที่สอง]
    - La vie est paisible. Je rêve de cette vie.---> La vie dont je rêve est paisible.- Le film a reçu un grand prix au festival de Cannes. Je t'ai parlé de de ce film la semaine dernière.---> Le film dont je t'ai parlé la semaine dernière a reçu un grand prix au festival de Cannes.
  • Où» เป็น adverbe แทนคำนาม ที่ทำหน้าที่เป็นส่วนขยาย บอก "ภายในสถานที่นั้น" หรือ "ในช่วงเวลานั้น" ในประโยคที่สอง
    - Le quartier est très agréable. J'habite dans ce quartier.---> Le quartier où j'habite est très agréable.- Le dimanche est un jour. Beaucoup de magasins sont fermés ce jour.---> Le dimanche est un jour où beaucoup de magasins sont fermés.
  • ce qui », « ce que », « ce dont » ใช้แทนที่ « la chose qui / que / dont » = สิ่งที่ซึ่ง :
    - Ce qui me plaît chez toi, c'est le sourire, ce sont tes yeux...- Elle aime tout ce qui est beau.
    - Ce que j'aime chez toi, c'est le sourire, ce sont tes yeux...- Je sais ce qu'elle aime.
    - Ce dont j'ai besoin maintenant, c'est d'un café fort.- Dis-moi ce dont tu as envie.
  • C'est .......qui / que ... », « Ce sont ........ qui / que ... » : เพื่อที่จะเน้นส่วนใดส่วนหนึ่ง (mettre en valeur) เราใช้ « C'est » หรือ « Ce sont » นำ และตามด้วย « qui » (เมื่อเป็นประธาน) หรือ « que » (เมื่อเป็นกรรมตรง) :
    - C'est Prangsaï qui est la seule danseuse de la classe 5/6 alors que Jitsoupang, Phanphimon et Nisa sont dans la classe 5/7.- C'est elle que tu veux voir ?- C'est moi qui suis votre professeur de français.- Ce sont eux qui ont la responsabilité du service. - Ce sont ces fleurs que je veux avoir chez moi.

2.19.2551

Proverbe

  1. Aide-toi, le ciel t'aidera
  • Aide-toi d'abord, et les autres t'aideront pour le reste.
    ช่วยตัวเองก่อน แล้วฟ้าจะช่วยท่าน
    [ไม่มีใครช่วยเราได้หากเราไม่ยอมช่วยเหลือตัวเราเองก่อน]

2. Mieux vaut tard que jamais.

  • Dans certaines circonstances, il vaut mieux agir,
    même avec du retard, que ne pas agir du tout.
    มาสายดีกว่าไม่มาเสียเลย
    [ในบางสถานการณ์ถึงแม้จะช้าไปบ้างแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำเสียเลย]

3. L' appétit vient en mangeant

  • Plus on a, plus on veut avoir
    ไม่รู้จักพอ
    [เท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ เหมือนกับยิ่งรวยก็ยิ่งอยากรวยยิ่งขึ้นไปอีก]

4. Comme on fait son lit, on se couche

  • Il faut s'attendre en bien ou en mal à ce qu'on s'est préparé à soi-même par sa conduite.
    ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
    [ประพฤติตนอย่างไรก็จะได้ผลลัพธ์เช่นนั้น]

5. Faute avouée est à moitié pardonnée

  • Tout devient moins grave si on sait avouer et s'excuser.
    ผิดแล้วสำนึกผิด อภัยให้แล้วกึ่งหนึ่ง
    [โทษหนักจะเป็นเบา หากเราสำนึกและขอโทษในความผิดของเรา]



  • เวลาที่ดีที่สุด คือ ตอนเช้า เพราะร่างกายเราได้พักผ่อน รวมทั้งสมองก็ได้พัก มีการจัดระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้พร้อมกับการใส่ข้อมูลใหม่ ๆ เข้าไป อันนี้เป็นเรื่องจริง แต่สำหรับคนที่ตื่นเช้าไม่ไหว เวลาดึก ๆ ที่เงียบ ๆ ก็เหมาะ คือว่ามันเงียบไง…สมองเราก็สามารถคิดสิ่งต่างๆ ได้ดี แต่อาจจะไม่เท่าตอนเช้า เพราะสมองเราต้องเหนื่อยจากการเรียนมาแล้วทั้งวัน บางคนยังมีการเรียนพิเศษตอนเย็นอีก
    สำหรับตัวเราเอง อ่านตอนกลางคืนสักนิด ได้เท่าไหนก็แค่นั้น 5 ทุ่มต้องเข้านอน แล้วก็ตั้งนาฬิกาปลุกตอนตี 3 ตี 4 ตี 5 แนะนำให้ตั้งนาฬิกาปลุกก่อนเวลาที่ต้องตื่นไปสักครึ่งชั่วโมง เพื่อที่เราจะได้มีเวลาเกลือกกลิ้งอยู่บนที่นอนก่อนสักพัก ถึงค่อยลุกไปล้างหน้าล้างตา มานั่งอ่าน ขอย้ำว่าควรทำให้ตัวเองตื่นเต็มที่ก่อนจะอ่าน เพราะไม่งั้นเดี๋ยวก็หลับคาหนังสืออีกจนได้

  • เวลาที่ไม่เหมาะสำหรับการอ่านหนังสือเรียนเลย คือ ช่วงบ่ายหลังจากกินข้าวเสร็จอิ่ม ๆ เคยได้ยินสุภาษิตไทยที่ว่า “พอหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน” ไหม ช่วงบ่ายจะเป็นช่วงที่คนเรามีความง่วงนอน อ่านไปก็หลับ ยิ่งหนังสือเรียนด้วย และไม่ควรนอนอ่านหนังสือ โดยเฉพาะบนเตียง ขอบอกว่าหลับแน่ๆ ไม่ใช่อ่านนิยายนี่ มันจะน่าติดตาม จนอยากอ่านให้จบ เรามีเพื่อนคนหนึ่ง เขาบอกว่าหนังสือเรียนคือยานอนหลับขนานเอก เห็นจะจริง อ่านไม่กี่หน้าก็หลับแล้ว

    การอ่านควรจะเป็นในสถานที่ที่สงบ เงียบ และสมองเราพร้อมที่จะรับเรื่องใหม่ ๆ นั่นแหละการอ่านถึงจะได้ผลสูงสุด

Centennial Tower, Singapore



Centennial Tower is a high-rise skyscraper located in the central business district of Singapore. It is located on 3 Temasek Avenue, in the zone of Marina Centre. The building is nearby other skyscrapers such as Millenia Tower, and Suntec City.It is less than 100 metres away from the future Promenade MRT Station.
It rises 158.0 metres above ground, and has a total of 37
floors. The building won the Building and Construction Authority's Best Buildable Design Award in the Commercial & Office Buildings category in 1999.
The development was built at a total cost of
S$149 Million. It has a gross floor area of 66,270 square metres.

Image du jour

Une abeille carnolienne

2.15.2551

La place de l'Europe




La place de l'Europe

La place de l'Europe est située au cœur du quartier de l'Europe, où la plupart des rues portent le nom de grandes villes du continent européen. Elle a la particularité d'être entièrement située sur un viaduc, au-dessus des voies ferrées de la gare Saint-Lazare
Les rues qui passent par la place de l'Europe sont, en partant de la
Gare Saint-Lazare et en tournant dans le sens des aiguilles d'une montre :
rue de Vienne
rue de Madrid
rue de Constantinople
rue de Saint-Pétersbourg = ex-rue de Léningrad = ex-rue de Pétrograd = ex-rue de Saint-Pétersbourg
rue de Liège = ex-rue de Berlin
rue de Londres


Vocabulaire
  1. la plupart - ส่วนมาก,โดยมาก,เกือบทั้งหมด
  2. partant-เพราะเช่นนั้น
  3. partant-ผู้ที่จากไป

Hurricane Isis

Hurricane Isis was the deadliest tropical cyclone and only hurricane to make landfall during the 1998 Pacific hurricane season. The ninth tropical storm and sixth hurricane of the season, Isis developed on September 1 from the interaction between a tropical wave and a large surface circulation to the southwest of Mexico. It moved northward, striking the extreme southeastern portion of the Baja California peninsula before attaining hurricane status in the Gulf of California. Isis made landfall at Topolobampo in the Mexican state of Sinaloa on September 3, and quickly lost its low-level circulation. The remnants persisted for several days before dissipating in the U.S. state of Idaho.
In Mexico, Isis destroyed over 700 houses and killed 14 people, primarily due to its heavy rainfall which peaked at over 20 inches (500 mm) in southern
Baja California Sur. The rainfall caused widespread damage to roads and railways, stranding thousands of people. Moisture from the remnants of Isis extended into the southwestern United States, resulting in light rainfall, dozens of traffic accidents, and power outages to thousands of residents in San Diego County, California.

Vocabulary
destroy - ทำลาย
develop - พัฒนา
accident - อุบัติเหตุ
rainfall - ปริมาณน้ำฝน,ห่าฝน
dozen -เป็นโหล,สิบสอง
railway -ทางรถไฟ
remnant -ส่วนที่เหลือ,ชิ้นที่เหลือ
widespread-แพร่หลาย,ที่มีอยู่ทั่วไป

L'Organisation météorologique mondiale

L'Organisation météorologique mondiale (OMM, en anglais World Meteorological Organization ou WMO) est une institution spécialisée des Nations unies. Son rôle est de participer à l'élaboration des normes qui permettent la standardisation des mesures météorologiques, leur échange international pour la veille et la prévision météorologique, leur archivage pour les études climatiques ainsi qu'une application pertinente de cette information. L'OMM traite également de l'hydrologie opérationnelle.
Le congrès de l'OMM, aidé de commissions techniques, adopte ces normes et recommandations pour faciliter la prise en compte des facteurs météorologiques, climatiques et hydrologiques dans toutes les activités humaines : préservation des personnes et des biens, transports (notamment aériens), agriculture, évaluation des ressources en eau, diffusion de l'information par les médias...

2.13.2551

สุภาษิตอังกฤษ++แปลไทย

  • A bird in the hand is worth two in the bush.
    แปลว่า อย่าจับปลาสองมือ (สิบเบี้ยใกล้มือ)
    ความหมาย อย่ามุ่งหวังสองฝ่าย , อย่าหวังประโยชน์ทั้งสองอย่าง
  • Leave a bad taste in the mouth.
    แปลว่า กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
    ความหมาย เป็นการที่ทำให้ลำบากใจ หรือไม่รู้จะทำอย่างไรดี
  • It’s no use bolting the stable-door after the horse has gone.
    แปลว่า วัวหายจึงล้อมคอก
    ความหมาย ของหายแล้วจึงคิดป้องกัน เกิดเรื่องแล้วจึงแก้ไข
  • A bad workman always blames his tools.
    แปลว่า รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง
    ความหมาย ทำผิดเอง ทไม่ดีเองแล้วไปโทษผู้อื่น
  • A fine cage won’t feed the bird.
    แปลว่า กรงสวยๆไม่ทำให้นกอยู่ได้
    ความหมาย เหมือนกับว่าสถานที่หรือสิ่งที่สวยงามล้ำค่าไม่สามารถดึงใครเอาไว้ได้
  • Stroke somebody the wrong way.
    แปลว่า กวนน้ำให้ขุ่น
    ความหมาย ชวนให้เกิดเรื่องราวขึ้น , ยุแหย่
  • Cut off a friendship, break off relations with.
    แปลว่า กรวดน้ำคว่ำขัน กรวดน้ำคว่ำกะลา
    ความหมาย ตัดไมตรีหรือตัดเยื่อใย


เลือดแต่ละกรุ๊ปโกรธแล้วเป็นยังไงกันม่าง

  • คนเลือดกรุ๊ป A คุณอาจจะต้องใช้เวลามากหน่อยกว่าเขาจะหายโกรธ เพราะเขาเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่ปกติจะเป็นคนโกรธคนยาก จริงใจกับทุกคน แต่ถ้าลองใครทำให้โกรธล่ะเป็นเรื่อง ยิ่งเป็นคนที่เขาไว้ใจแล้วมาหักหลังกัน อาจถึงขั้นไม่ร่วมทางกันเลยเชียว เวลาที่คนกรุ๊ป A โกรธ อย่าพยายามยับยั้งเขา หรืออย่าไปแก้ตัวแทนคนที่ทำให้เขาโกรธ เพราะเขาอาจพาลมาโกรธคุณด้วย พยายามเอาอกเอาใจเรื่องอื่น เวลาจะช่วยให้เขาหายโกรธได้ แต่ถ้าจะให้ดีอย่าทำให้เขาโกรธเลยเป็นดี

  • คนเลือดกรุ๊ป B จริงๆ แล้วคนเลือดกรุ๊ปนี้จะอารมณ์ดี ออกจะเป็นคนโกรธง่าย แต่ก็ลืมง่ายด้วย เขาจะโกรธใครได้ไม่นานนักหรอก สักพักเขาก็ลืมแล้ว ยิ่งมีเรื่องหนุก ๆ มาเล่าให้ฟัง หรือมีอะไรมัน...มันให้เขาทำก็ยิ่งดี ถ้าคนเลือดกรุ๊ป B โกรธขึ้นมา ต้องพยายามอย่าไปใส่ใจมากนักในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้ทำเป็นไม่สนใจเขานะ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเขาอาจจะพาลโกรธมากขึ้น แค่อย่าไปพูดรื้อฟื้นทำให้เขาลืมๆ ไป ยิ่งลืมเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี

  • คนเลือดกรุ๊ป AB เขาจะเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง เป็นคนเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองสูง ถือดีเป็นที่สุด และไม่ชอบง้อใคร เวลาจะทำอะไรเขาก็เป็นคนมีเหตุผลพอสมควร แต่เหตุผลก็จะเข้าข้างตัวเองซะมาก เขาอาจจะทำให้คุณปวดหัวได้หากทำให้เขาโกรธ เพราะเขาจะไม่ยอมฟังคำแก้ตัวใด ๆทั้งสิ้น ก็บอกแล้วว่าเขามีเหตุผลที่ค่อนข้างเข้าข้างตัวเอง ถ้าเขาโกรธก็ยอมๆ เขาหน่อย ยอมที่จะเอ่ยคำว่าขอโทษคงไม่เสียศักดิ์ศรีของคุณเท่าไหร่หรอกมั้ง แค่เนี้ย.... เขาก็จะหายโกรธแล้ว

  • คนที่มีเลือดกรุ๊ป O ความโกรธของคนเลือดกรุ๊ป O รุนแรงราวกับพายุเฮอริเคนก็ไม่ปาน เขาจะน่ากลัวมากเมื่ออยู่ในอารมณ์โกรธ อย่าไปขวางเชียวอาจโดนลูกหลงเข้าได้ แต่เขาเป็นคนมีเหตุผลมาก จึงเป็นเรื่องที่ยากหากจะทำให้เขาอารมณ์ดี อย่างที่บอกแล้วว่า ถ้าโกรธจะแรงมาก แต่ถ้าเขารู้สาเหตุข้อเท็จจริงที่ทำให้เขาโกรธ อธิบายให้เขาฟังอย่างมีเหตุผลเขาก็จะหายโกรธเป็นปลิดทิ้ง ประมาณว่าเหมือนไม่เคยโกรธกันมาก่อน

2.05.2551

Familles de Mots

accepter (อัก-แซป-เต) (v) = ยอมรับ

- J'accepte votre invitation avec plaisir.

se résigner à, être d'accord, tolérer, adopter, vouloir bien, consentir à
  • contraires : refuser, repousser, rejeter, décliner

le logement : ที่อยู่อาศัย

Les types de logements : ชนิดของที่อยู่อาศัย

la maison ลา เม-ซง บ้าน
l' appartementลา ปาร์-เตอ-มอง ที่พักอาศัยที่เป็นห้องชุด
le chaletเลอ ชา-เล บ้านตากอากาศตามภูเขา
le studioเลอ สตือ-ดิ-โอ ที่พักอาศัยที่มีเพียงห้องเดียว
le pavillonเลอ ปา-วิ-ยง บ้านสวน(มักอยู่ชานเมือง)
le manoir เลอ มา-นัว คฤหาสน์ตามชนบท
la villaลา วิล-ลา บ้านสวน
l'hôtel pariculierโล-แต็ล ปาร์-ติ-กือ-ลิ-เย คฤหาสน์
le grand ensembleเลอ กรอง ตอง-ซอง(เบลอ) แฟลต(เหมือนแฟลตดินแดงหรือห้วยขวาง)


le toit เลอ ตัว=หลังคา
le murเลอ มือร์=ผนัง, กำแพง
le balconเลอ บัล-กง=ระเบียง
la fenêtreลา เฟอ-แน๊ต(เทรอ)=หน้าต่าง
la caveลา ก๊าฟ(เฝอ)=ห้องใต้ดิน
le jardin เลอ ชาร์-แดง=สวน
le plafond เลอ ปลา-ฟง=เพดาน
le premier étageเลอ เพรอ-มิ-เย เอ-ตาช(เชอ)=ชั้นที่หนึ่ง(คนไทยเรียก ชั้นสอง)
le garage เลอ กา-ราช(เชอ)=โรงรถ
la porte ลา ปอร์ต(เตอ)=ประตู
la clé / la clefลา กเล=ลูกกุญแจ
la serrure ลา แซร์-รือ(เลอ)=รูกุญแจ
le rez-de-chaussée เลอ เร๊ด-โช-เซ=ชั้นที่ติดพื้น(ชั้นล่าง)
le sol- เลอ ซอล=พื้น

2.03.2551

ปรับนาฬิกาชีวิต



ตัวเรา = นาฬิกา ไม่แปลกหรอกค่ะ หากใครจะมานอนอ่อนล้าบนเตียงแบบนี้ ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตัวต้นเหตุก็คือเจ้า นาฬิกาในตัวเรานี่ล่ะ นาฬิกาทีไม่ได้มีกลไกเป็นฟันเฟืองเหมือนนาฬิกาที่แขวนตามผนังบ้าน แต่เป็นช่วงเวลาใน 1 วัน ตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและเดินอยู่ตลอดเวลา เราเรียกมันว่า นาฬิกาชีวิต (Biological Clock) ที่บอกเวลาไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายเรา รวมทั้งควบคุมการทำงานของร่างกายอีกด้วย ซึ่งถ้าเรารู้ จังหวะของเจ้านาฬิกาเรือนนี้แล้วละก็ เราก็สามารถรู้ได้ว่าช่วงเวลาใด เหมาะที่จะทำกิจกรรมอะไร ทั้งนี้นาฬิกาชีวิตนี้คงไม่ตรงเผงเหมือนกับเข็มนาฬิกาที่เดินไปมา 24 ชั่วโมง แต่ก็มีความใกล้เคียงกันมาก และนักวิชาการได้ค้นพบว่าจังหวะ หรือวงจรที่ว่านี้มีรูปแบบที่แตกต่างกันมากกว่า 100 รูปแบบ

เดย์ไลฟ์ & ไนท์ไลฟ์ คุณอาจสงสัยว่า คนแต่ละคนจะมีจังหวะ หรือวงจรของนาฬิกาในร่างกายเหมือนกันหรือเปล่า คำตอบก็คือ แต่ละคนมีจังหวะการเดินของนาฬิกาที่ไม่เหมือนกัน เนื่องจากตารางชีวิตของแต่ละคน แต่ละอาชีพ แต่ละชาติ ล้วนเป็นตัวกำหนดการเดินของเข็มนาฬิกาในตัว แต่หลักๆ แล้ว เราสามารถแบ่งจังหวะออกได้เป็น 2 ช่วงคือ


มนุษย์ภาคเช้า (Morning Person) คือผู้ที่โปรดปรานการตื่นมาสัมผัสอากาศในยามเช้า นาฬิกาชีวิตจะเริ่มต้นในช่วง 5.30 น. 5.30-6.30 น. เป็นช่วงเวลาสำหรับการตื่นนอน อวัยวะต่างๆ เริ่มทำงานทีละน้อย เป็นเวลาที่ร่างกาย ยังไม่มีสมาธิ ฉะนั้นไม่เหมาะกับการอ่านหนังสือ หรือทำงานที่ใช้สมาธิโดยเด็ดขาด 6.00-8.00 น. ช่วงนี้สมองจะปลอดโปร่ง เริ่มลุยงาน หรืออ่านหนังสือได้เลย 8.00-12.00 น. เป็นช่วงที่ร่างกายมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด รวมไปถึงระบบหัวใจและการ ไหลเวียนโลหิต แถมความคิดก็ยังคล่องแคล่ว เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องอาศัยการคิด และการ แก้ปัญหา 12.00-14.00 น. ร่างกายเริ่มทำงานช้าลง และไม่ค่อยมีสมาธิ 14.00 - 17.00 น. สมองกลับมาตื่นตัว จะรู้สึกกระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว เหมาะที่จะทำกิจกรรมที่ เกี่ยวกับการวิเคราะห์ และใช้ความจำ 17.00-20.00 น. เวลานี้สมองต้องการการกระตุ้น เพื่อสร้างความสดชื่น อาจออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรือเล่นเกม เพื่อสร้างความ แข็งแรงให้กับสมอง 20.00-22.00 น. ช่วงนี้ขอให้หยุดพัก เพราะสมองจะเริ่มเชื่องช้า ไม่มีสมาธิ 22.00-04.00 น. เป็นเวลาที่เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นที่สุด เพราะเซลล์ส่วนใหญ่เริ่มทำงานน้อยลง และ จะปล่อยให้ฮอร์โมนที่มีหน้าที่ซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกายออกมาทำงานแทน


มนุษย์ภาคค่ำ (Night Owl) หรือทายาทนกฮูกที่นาฬิกาชีวิตจะเริ่มเดินประมาณ 8.00 น. 8.00 - 10.00 น. อวัยวะต่างๆ เพิ่งเริ่มทำงาน ซึ่งแน่นอนว่าไม่ควรทำงานที่ต้องใช้สมาธิมาก 10.00 - 12.00 น. สมองปลอดโปร่ง พร้อมลุยงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ 12.00 - 13.00 น. เวลานี้เป็นช่วงที่ร่างกายมีประสิทธิภาพเต็มที่ ทั้งระบบหัวใจ และระบบไหลเวียน โลหิตทำงานอย่างดีเยี่ยม 13.00 - 15.00 น. เช่นเดียวกับมนุษย์ภาคเช้า ที่การทำงานของร่างกายค่อยๆ ลดประสิทธิภาพลง (ง่วงนอนตามระเบียบ) 15.00 - 18.00 น. ช่วงนี้ร่างกายและสมองต้องการการกระตุ้น เพื่อสร้างความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า 18.00 - 23.00 น. ร่างกายตื่นตัวเต็มที่ ระบบการทำงานของหัวใจและการไหลเวียนของโลหิตเริ่มกลับ มาทำงานดีเหมือนเดิม แบบนี้เขาเรียกว่ายิ่งดึกยิ่งคึก (ครื้น) 23.00 - 24.00 น. สมองจะเริ่มทำงานช้าลง เหมาะอย่างยิ่งที่จะกลับบ้าน อาบน้ำ เข้านอน
นาฬิกาพันธุกรรม อยากรู้ไหมคะว่า ทำไมการเดินของนาฬิกาของบางคนถึงเดินได้ดีในช่วงเช้า แต่พอตกเย็นกลับล้าจนแทบ เดินไม่ไหว กับบางคนยิ่งตะวัน ตกดินยิ่งเดินไว แต่พอไก่ขันกลับอยากเอาหน้าซุกลงกับหมอนซะอย่างนั้น มีแพทย์และนักวิจัยจาก Stanford และ Wisconsin University ได้ร่วมกันทำวิจัยเพื่อหาสาเหตุว่า ทำไมคนแต่ละคนถึงมีเวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่แตกต่างกัน ซึ่งหลังจากทำการสำรวจจากผู้เข้าร่วม กว่า 400 คน โดยนำข้อมูลและยีนของแต่ละคนมาทำการวิจัยแล้ว พบว่ามียีนที่ชื่อ Clock Gene หรือนาฬิกา พันธุกรรม ซึ่งเป็นตัวกำหนดความแตกต่างของการเดินของนาฬิกาชีวิตของแต่ละบุคคล ถึงแม้จะมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่การเดินของนาฬิกาต่ออวัยวะและส่วนต่างๆ ของร่างกายของเราใน แต่ละช่วงเวลานั้นไม่เหมือนกัน เช่น คนทั่วไปอาจจะมีไอเดียบรรเจิดในช่วงเช้า แต่บางคน จะเกิดไอเดียใน ช่วงเวลาใกล้ค่ำ ซึ่งการที่เรารู้จังหวะการเดินของนาฬิกาชีวิตของตัวเองนั้น จะทำให้ รู้ว่าศักยภาพของเรานั้นสามารถนำ ออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในช่วงเวลาใด แล้วยังได้รู้อีกว่าควรที่จะพักผ่อน และดูแลสุขภาพของตัวเอง อย่างไรด้วย ที่สำคัญอย่าลืมติดเบรกให้กับนาฬิกาของตัวเอง เพราะขนาด นาฬิกาแท้ๆ ยังต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ตลอด ชีวิตการใช้งาน ไม่ต่างกัน


In the know! - ตี 3 - 5 เป็นช่วงเวลาที่ควรตื่นขึ้นมาสูดอากาศ และรับแสงแดด ยามเช้า เพราะจะช่วยให้ปอดและผิว พรรณดี - สาเหตุหนึ่งที่เรียกว่านาฬิกาชีวิต ก็เพราะการไหลเวียนของพลังชีวิต (ลมปราณ) ที่ผ่านแต่ละอวัยวะนั้น จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ผ่านทั้งหมด 12 อวัยวะ ซึ่งรวมทั้งหมดเป็น 24 ชั่วโมง หรือเท่ากับ 1 วันนั่น เอง






ประโยคภาษาเยอรมัน

เอาประโยคเยอรมันไปหน่อยและกัน
  1. Um wie viel Uhr schlafen Sie ? - คุณเข้านอนกี่โมง
  2. Wohin gehen Sie ? - คุณไปไหน
  3. Danke,gleichfalls! - ขอบคุณเช่นกัน
  4. Wann treffen wir uns morgen ? - เราจะพบกันพรุ่งนี้กี่โมง
  5. bis morgen ! - เจอกันพรุ่งนี้
  6. Bis morgen um .... Uhr - เจอกันพรุ่งนี้ ... นาฬิกา
  7. Wie heißt du ? - คุณชื่ออะไร
  8. Ich heiße .... - ฉันชื่อ ...
  9. Wo wohnst du ? - คุณพักอยู่ที่ไหน
  10. Ich wohne in ... - ฉันพักอยู่ที่...
  11. Woher kommst du ? - คุณมาจากไหน
  12. Ich komme aus... - ฉันมาจาก...
  13. Was machst du ? - คุณกำลังทำอะไร
  14. Wie geht's ? - สบายดีมั้ย
  15. Bist du verheiratet ? - คุณแต่งงานหรือยัง
  16. Hast du kinder ? - คุณมีลูกหรือยัง
  17. Wie alt bist du ? - คุณอายุเท่าไร
  18. Wer bist du ? - คุณเป็นใคร

---สวัสดีภาษาต่างๆ---

---Hello/Hi---ภาษาอังกฤษ

ฮาโหล---ภาษาเยอรมัน

หนีเห่า---ภาษาจีน

ฮันยองฮาเซโย---ภาษาเกาหลี

โอะฮาโย โกะซัยมัส/โคนนิจิวะ/คมบังวะ---ภาษาญี่ปุ่น

นมัสเต---ภาษาอินเดีย/เนปาลี

มินกลาบา---ภาษาพม่า

สบายดี??---ภาษาลาว

บง ชูร์---ภาษาฝรั่งเศส

ซินจ่าว---ภาษาเวียดนาม

กูมุสต้า---ภาษาตากาล็อก

ซาลามัสดาตัง---ภาษามาเลย์

โอล่า---ภาษาสเปน/โปรตุเกส

บวน จอ รโน---ภาษาอิตาเลียน

คูเดิ้นด๊าค---ภาษาดัตช์

ชัว สเดย์---ภาษาเขมร

ซดราฟส์ วุย ดิ ---ภาษารัสเซีย

เมร์ ฮาบา---ภาษาตุรกี

อาโฮย---ภาษาเชค

ยาซาส---ภาษากรีก

ฮัดโหล---ภาษาไอซ์แลนดิก

ซาลามัส เชียง---ภาษาอินโดนีเซีย

ไฮย---ภาษาสวีดิช

อาโฮย---ภาษาสโลวัก

ไฮ---ภาษาแดนิช

บองเดีย/บัวต๊าร์ดิ---บราซินเลียน

โอล่า---ภาษากาตาลัน-บาร์เซโลน่า

2.02.2551



วอชิงตัน-เผยภาพแรกอีกด้านของดาวพุธ นักวิทยาศาสตร์ตะลึงรอยภูเขาไฟคล้ายแมงมุม ยันไม่เคยพบมาก่อนในดาวดวงอื่น องค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐ (นาซา) แถลงเมื่อวันพุธ (30 ม.ค.) เปิดตัวภาพแรกของพื้นผิวดาวพุธในด้านที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยภาพที่ยานสำรวจเมสเซนเจอร์ถ่ายส่งกลับมายังโลกนั้น แสดงให้เห็นแนวสันเขาที่คล้ายกับรอยย่นและร่องรอยการระเบิดของภูเขาไฟหลายครั้ง ตลอดจนร่องรอยที่เกิดขึ้นพร้อมกับการกำเนิดของดาวพุธซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับแมงมุมด้วย นายฌอน โซโลมอน แห่งสถาบันคาร์เนกีแห่งวอชิงตัน ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ภารกิจยานเมสเซนเจอร์ เผยว่ารูปบางรูปจากทั้งหมด 1,213 รูป ที่ถ่ายมานั้น ช่วยสนับสนุนหลักฐานว่ามีภูเขาไฟดึกดำบรรพ์อยู่บนพื้นผิวดาวพุธ และร่องรอยเหล่านี้ก็เริ่มมีความเก่าแก่มากขึ้นจนเริ่มก่อตัวเป็นแนวสันเขาที่มีรูปร่างคล้ายรอยยับย่น แต่รูปอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นถึงรอยระเบิดของภูเขาไฟกลับทำให้นักวิทยาศาสตร์แปลกใจและสับสน เนื่องจากไม่เคยเห็นร่องรอยเช่นนี้มาก่อนทั้งบนดาวพุธและดวงจันทร์ รวมถึงดาวดวงอื่นๆ นายเจมส์ เฮด นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบราวน์ ในรัฐโรดไอแลนด์ กล่าวว่า รอยเหล่านี้เหมือนรอยปากปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่มีแนวเส้นแผ่ขยายออกมาจากศูนย์กลาง จึงขนานนามส่วนนี้ว่าเป็น "แมงมุม" แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่ารอยนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ดาวก่อตัวขึ้นหรือเกิดขึ้นหลังจากนั้น โดยนอกจากนี้ดาวพุธยังมีหน้าผาขนาดใหญ่หลายแห่งที่แผ่ตัวไปตามพื้นผิวดาวหลายร้อยกิโลเมตร ซึ่งสามารถบ่งชี้ให้เห็นถึงการเคลื่อนตัวของเปลือกดาวพุธในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ขณะที่ผู้วชาญต่างยืนยันว่า ดาวพุธนั้นเป็นดาวเคราะห์ที่แตกต่างจากที่คาดคิดไว้ โดยการสืบค้นพบว่าดาวซึ่งเล็กที่สุดและอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดแห่งนี้เป็นดาวที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จากการที่มีภูเขาไฟที่ยังคงคุกกรุ่นและมีสนามแม่เหล็ก นอกจากนี้ข้อมูลที่ยานเมสเซนเจอร์ส่งมาให้นั้นยังสร้างความแปลกใจให้นักวิทยาศาสตร์อีกประการ คือ ดาวพุธเป็นดาวที่มีสีสันแตกต่างจากที่คาดคิดไว้ตอนแรกว่าจะมีเพียงสีขาวดำเช่นเดียวกับดวงจันทร์ แต่ภาพใหม่ที่ส่งมาซึ่งถ่ายจากด้านที่ไม่เคยสำรวจมาก่อนของดาวพุธแสดงให้เห็นว่า ดาวเคราะห์มีพื้นผิวที่เป็นสีแดงและสีฟ้าไม่เหมือนกับดวงจันทร์ ทั้งนี้ยานเมสเซนเจอร์ออกเดินทางจากโลกตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2548 ก่อนจะเดินทางกว่า 78,000 ล้านกิโลเมตร ไปยังดาวพุธ เพื่อสำรวจพื้นผิวอีกด้านที่ยังไม่เคยเห็น ซึ่งมีถึงร้อยละ 55 ของพื้นผิวทั้งหมด


ข้อมูลจาก

ภาพประกอบจาก http://www.space.com/